โฆษกรัฐบาลเผย
อียูพอใจการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายของไทย ชี้มีความก้าวหน้าชัดเจนหลายด้าน
พร้อมร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ แนะจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวควบคู่ไอยูยู
ยกระดับมาตรฐานประมงไทยให้เป็นสากล
พลโท
สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
คณะผู้แทนกรรมาธิการประมง (PECH) รัฐสภายุโรป ได้เดินทางมายังประเทศไทย
เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
โดยได้ชื่นชมความพยายามในการแก้ไขปัญหาของไทย โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมาย
แผนการทำงาน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่ชัดเจนในหลายด้าน
คณะผู้แทนได้พูดคุยอย่างเปิดเผย
และสนับสนุนให้ไทยดำเนินงานตามแนวทางที่ปฏิบัติต่อไป
โดยสหภาพยุโรปจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์
เพื่อต่อสู้กับปัญหาการทำประมงที่ไม่ถูกต้อง การค้ามนุษย์
และการเอารัดเอาเปรียบแรงงานในอุตสาหกรรมประมง
และหากไทยสามารถปรับปรุงกฎระเบียบด้านการประมงสำเร็จและบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พลโท
สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ไทยจะต้องพยายามเพิ่มขึ้นอีกคือ
การจัดระเบียบและคุ้มครองแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมประมง
เพราะอียูมองว่าไม่สามารถแยกเรื่องแรงงานออกจากประเด็นการทำประมงผิดกฎหมายได้
ซึ่งที่ผ่านมาทางการไทยได้ดำเนินการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวตั้งแต่การเข้ามาทำงานในประเทศมิให้ถูกเอาเปรียบ
การนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบ
การดูแลให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเหมาะสม อำนวยความสะดวกด้านการร้องเรียน
การเปลี่ยนนายจ้าง มีการเพิ่มผู้ตรวจแรงงาน ล่าม
รวมถึงการออกหนังสือคนประจำเรือและการสัมภาษณ์แรงงาน
และร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และ NGOs
ในการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว
ท่านนายกฯ
กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและข้อแนะนำของอียู
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวควบคู่ไปกับปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย
พร้อมทั้งฝากให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มุ่งมั่น ทุ่มเท
ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับ
ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมประมงและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของไทยอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้
คณะผู้แทนจากรัฐสภายุโรปได้เดินทางมายังประเทศไทย เมื่อ 1-4 พ.ย.59
และได้เข้าพบหารือกับผู้แทน ศปมผ. กระทรวงแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า
รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมศูนย์จัดการประมง (FMC) และการทำงานของระบบ VMS
องค์การสะพานปลา และศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) จ.สมุทรสาคร
ซึ่งได้รับทราบผลเป็นที่น่าพอใจ
ส่วนการประกาศผลการพิจารณาการแก้ไขปัญหาของไทยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน
ม.ค.60 |